มีฟาร์มแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับแม่น้ำสายหนึ่ง
ที่ฟาร์มแห่งนี้ เลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ ไว้มากมายหลายชนิด
วันหนึ่ง มีจระเข้ตัวหนึ่งขึ้นมาจากน้ำแล้วตรงเข้าจับลูกสุนัขไปกินเป็นอาหารก่อนที่จะคลานกลับลงน้ำไป แม่สุนัขเสียใจมาก มันแน่ใจว่า จระเข้จะต้องกลับมากินลูกของมันที่เหลืออีก
แม่สุนัขจึงรีบวิ่งเข้าไปในโรงนา แล้วร้องอ้อนวอนว่า
“ได้โปรดช่วยฉันด้วย เจ้าจระเข้คงจะมากินลูก ๆ ของฉันอีกเป็นแน่”
ไม่มีสัตว์ตัวใดยอมช่วยแม่สุนัข
“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก เจ้าจระเข้มีรูปร่างใหญ่โต และดุร้ายมาก” ม้าบอก
“ใช่แล้ว ๆ” พ่อวัวก็เห็นด้วย
แม่สุนัขจึงไปหาลา แต่ลาก็ปฏิเสธเช่นกัน ทำให้แม่สุนัขรู้สึกสิ้นหวัง
มันจึงไปยืนร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้
ขณะนั้นมีสุนัขดำตัวหนึ่งเดินผ่านมา “ท่านร้องไห้ทำไมหรือ” สุนัขดำถาม
แม่สุนัขจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้สุนัขดำฟัง
“อย่ากลัวไปเลย ข้าจะไปพาเพื่อน ๆ มาช่วยท่านเอง” สุนัขดำบอก
วันต่อมา เมื่อจระเข้กลับมาเพื่อจะกินลูกสุนัขอีก แม่สุนัขจึงเห่าขอความช่วยเหลือ
สุนัขดำได้ยิน จึงรีบวิ่งมาช่วยพร้อมกับเพื่อน ๆ ของมัน
แม้จระเข้จะตัวโตและดุร้าย แต่พวกของสุนัขดำก็เข้าต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัว
สุนัขบางตัวต้องตายไปในระหว่างการต่อสู้ แต่ตัวที่เหลืออยู่ก็คงต่อสู้กับจระเข้ต่อไปอย่างกล้าหาญ จระเข้ถูกพวกสุนัขกัดได้รับบาดเจ็บสาหัส จนทนไม่ไหวจึงหนีลงน้ำกลับไป
“ฉันและลูก ๆ จะไม่ลืมบุญคุณของพวกท่านในครั้งนี้เลย ต่อไปนี้พวกเราคงได้อยู่อย่างปลอดภัยซะที”
แม่สุนัขกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“เพื่อนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในยามทุกข์ยาก คือ เพื่อนที่แท้จริง”