สัตว์ต่างๆในป่าต่างล้มตายลงจำนวนมากเพราะความหิว ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ
ช่วงบ่ายของวันหนึ่ง........มีกาตัวดำคาบเนื้อชิ้นใหญ่ ที่หามาได้จากในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ห่างไกลออกไป มันคาบเนื้อก้อนนั้นอยู่บนกิ่งของต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ขณะนั้นเอง ได้มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่กำลังหิวโหย เนื่องจากไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน
เจ้าสุนัขจิ้งจอกเห็นเนื้อที่กาคาบไว้อยู่ จึงอยากได้เนื้อนั้นมากิน จะทำอย่างไรดีหนอ เจ้าสุนัขจิ้งจอกคิด และแล้วมันก็นึกอุบายออก จึงบอกกับกาว่า
“เจ้ากาเอ๋ย ข้าเคยได้ยินมาว่า เจ้าเป็นนกที่มีเสียงไพเราะมาก แต่มันไม่เคยได้ยินมาก่อน”
เจ้ากาได้ยินดังนั้น นึกหลงตัวเองที่มีเสียงไพเราะ เจ้ากาจึงอ้าปากแผดเสียงของมันออกมา
ทำให้เนื้อก้อนโตที่อยู่ในปากของกาหลุดออกจากปาก หล่นลงมา เจ้าสุนัขจิ้งจอกจึงรีบคาบไว้
เมื่อได้ก้อนเนื้อสมใจ เจ้าสุนัขจิ้งจอก มันก็ได้บอกความจริงว่า
“เจ้ากาเอ๋ย นอกจากเสียงเจ้าจะไม่ไพเราะแล้ว สติปัญญาของเจ้าก็ยังโง่เขลาอีกด้วย”
กาเสียใจมากที่หลงเชื่อกลอุบายของสุนัขจิ้งจอก
แต่กาก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ฟังเสียงท้องร้องของตนเอง
นิทานอีสปเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า“อย่าไว้ใจคนประจบสอพลอ..…ถ้อยคำเยินยอมักหวังผลประโยชน์เสมอ”