กาลครั้งหนึ่ง มีตั๊กแตนเจ้าสำราญตัวหนึ่งนิสัยเกียจคร้าน
ชอบความสะดวกสบาย
ตลอดช่วงฤดูร้อน มดง่ามพากันหาอาหารไปเก็บสะสมไว้ในรัง
เจ้าตั๊กแตนมัวแต่ร้องรำทำเพลง สนุกสนานไปวันๆ
ครั้นถึงฤดูหนาวหิมะตกหนัก
มดง่ามเก็บตัวอยู่กับเม็ดพืชที่มันได้หาเก็บเตรียมพร้อมไว้
ตั๊กแตนไม่สามารถหาอาหารกินได้อดอยู่หลายวัน
จนในที่สุด ต้องซมซานด้วยความหิวโหยมาเคาะประตูรังของมดง่าม ซึ่งเคยรู้จักกัน
“ได้โปรดเถิดเพื่อน ขออาหารให้ฉันประทังชีวิตสักหน่อย
เมื่อพ้นฤดูหนาวอันแสนทารุณนี้แล้ว ฉันสัญญาว่าจะหามาใช้คืนให้เป็นเท่าตัว”
ตั๊กแตนพยายามวิงวอน
มดกล่าวต่อจักจั่นว่า
“เมื่อตอนฤดูร้อนที่ใครๆเขาพากันทำมาหากินตัวเป็นเกลียว เจ้ามัวทำอะไรอยู่”
“เพราะว่าฉันไม่มีเวลาน่ะสิ ฉันยุ่งอยู่กับการร้องเพลง
เมื่อตอนที่เธอและเพื่อนๆขนอาหารผ่านมา ก็ได้ยินมิใช่หรือ”
มดหัวเราะกับคำตอบของจักจั่น
และเก็บเม็ดข้าวกองพูนของตนไว้ในห้องใต้ดิน
พร้อมเอ๋ยบอกจั๊กจั่นว่า
“ได้ยินซิ…ในเมื่อเจ้ามัวแต่ร้องเพลงตลอดฤดูร้อน
เมื่อถึงฤดูหนาวก็จงเต้นรำให้สนุกเถิด”
กล่าวจบมดก็ปิดประตูทันที
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ผู้ขยันย่อมไม่ประมาท…เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต…ย่อมไม่อดอยาก”
“คนเกียจคร้านและประมาท…มักปล่อยเวลาไปกับความต้องการที่โง่เขลาของตน
…จึงมักจะได้รับความลำบากยากแค้นในอนาคต“